สวัสดีครับ . . . เดินทางมาเที่ยวกันที่ญี่ปุ่นกันเป็นตอนที่ 3 แล้วนะครับ ^^
หลังจากพาไปเดินย่านน่ารักๆอย่าง Kichijoji และพาชม พิพิธภัณฑ์ Fujiko Museum กันมาแล้ว
วันนี้ยังอยู่ในโตเกียวเช่นเคย คราวนี้พาไปเดินเล่นกันที่ย่านดังกันบ้าง ที่ Akihabara อากิฮาบาระ
ย่านที่ได้ชื่อว่าเป็นย่านอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เกมส์ การ์ตูน โมเดล ฯลฯ หรือเรียกกันว่า ย่านโอตาคุ นั่นเองครับ
Akihabara หรือ อากิฮาบาระ เป็นย่านช็อปปิ้งย่านดังย่านหนึ่งของโตเกียว ที่เรียกได้ว่าใครมาเที่ยวก็จะต้องแวะมาที่นี่กันทั้งนั้นครับ ที่อากิฮาบาระนี้มีขายเครื่องใช้ไฟฟ้าแทบจะทุกชนิด ตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน คอมพิวเตอร์ เครื่องเกมส์ เรียกได้ว่าครอบจักรวาลเครื่องใช้ไฟฟ้ามารวมไว้ที่นี่ที่เดียวเลยครับ
การเดินทางนั้นง่ายแสนง่าย สามารถนั่งรถไฟมาลงได้เลยที่ สถานี Akihabara สถานีนี้ค่อนข้างกว้างใหญ่
สนใจจะไปร้านไหนก่อนลองเช็คทางออกต่างๆกับแผนที่ดูนะครับ จะได้ไม่ต้องเดินไกล
ที่ย่านนี้ถ้าจะเทียบกับบ้านเราก็คงจะเป็นย่านที่รวมห้างพันธ์ทิพย์พลาซ่าทุกสาขา สะพานเหล็ก คลองถม มารวมไว้ด้วยกันเลยทีเดียวครับ ด้วยความกว้างใหญ่ ตรอกซอยซอกแซกมากมาย อาคารและห้างสรรพสินค้าต่างๆอีกหลายสิบ เดินกันทั้งวันก็ยังไม่ครบครับ ถ้ามาแบบไม่ได้ตั้งใจไว้ว่าจะไปร้านไหนก่อน
Trader ร้านนี้ก็เป็นร้านดังอีกร้าน มีอยุ่หลายสาขา เค้ามีทั้งแผ่นหนัง , แผ่นเกม , software , blu-ray , dvd มือสอง หลายๆแผ่นเห็นว่าหายาก หาซื้อไม่ได้แล้วก็มีให้เลือกครับ นอกจากขายแล้วก็ยังรับซื้ออีกด้วยนะ คล้ายๆร้านเกมส์-การ์ตูน มือสองบ้านเรานั่นแหละครับ
อีกอย่างนึงที่เราพลาดไม่ได้คือ ตู้หยอดเหรียญ ประเภทชิงรางวัลตุ๊กตา ที่นี่มีให้เลือกหลายแบบครับ ตั้งแต่หนีบ เขี่ย ตัก เกี่ยว แทง ฮ่าๆ ใครถนัดแบบไหนก็ลองเล่นดูนะครับ อย่าไปพยายามเอาชนะมันมาก ไม่งั้นอาจจะทรัพย์จางอย่างรวดเร็วครับ ^^”
ร้านที่เป็นที่นิยมอีกอย่างก็คือ ร้านตุ๊กตา โมเดล ฟิกเกอร์ หุ่นจำลอง ที่รวบรวมโมเดลตัวละครจากในการ์ตูน เกมส์ ดังๆต่างๆ มีหลายเกรดให้เราได้เลือกชมกัน ราคาก็ถูกแพงแตกต่างกันไปตามคุณภาพและความหายากครับ สนใจแบบไหนสามารถดูรหัสแล้วเข้าไปสั่งกับพนักงานได้เลยครับ หรือเรียกเค้ามาไขตู้หยิบเลยก็ได้
ที่พลาดไม่ได้สำหรับหนุ่มโสด หรือหนุ่มๆสายโอตาคุ ก็คือร้าน Maid Cafe หรือคาเฟ่สาวใช้ ที่มีสาวๆญี่ปุ่นแต่งตัวเป็นสาวใช้มารับออเดอร์มาคอยดูแลลูกค้าแบบฟรุ้งฟริ้งๆมุ้งมิ้งๆงุงิๆกัน ที่นี่ก็ถือว่าเป็นต้นตำรับแหล่งกำเนิดของ Maid Cafe กันเลยทีเดียวครับ วันนี้มากับคุณผบ.ทบ. ถ้าบอกว่าจะเข้าละก็โดนหยิกหูแน่ครับ ^^”
เดินกันมาไกล เริ่มเหนื่อยและหิวแล้ว แวะทานราเมงร้านดังย่านอากิบาฮาระกันดีกว่าครับ ที่ร้านนี้เลย Kyushu Jangara Ramen เท่าที่ลองถามทางดูคนแถวนี้ก็รู้จักกันดี ใจดีช่วยบอกทางให้เราเดินมาไม่หลงครับ เค้าเรียกกันสั้นๆว่า จังกะระ ครับ มาถึงก็มีคิวอยู่แต่รอไม่นานครับ
ราเมงของที่ร้านนี้เป็นราเมงสไตล์คิวชู ที่ใช้น้ำซุปกระดูกหมูแบบเข้มข้น มีเมนูให้เลือกตั้งแต่แบบดั้งเดิม , ซุปมิโสะ , แยกเส้น , ซุปเผ็ด , แบบแห้ง แต่ละแบบก็สามารถเลือกปริมาณเครื่องท็อปปิ้งที่จะใส่ได้ครับ ราคาก็เพิ่มลดตามปริมาณเครื่องที่เลือก
เข้ามาในร้านกันเลยดีกว่า ภายในร้านอาหารสไตล์ร้านข้าวจานด่วนของญี่ปุ่นที่ใช้พื้นที่ที่มีค่อนข้างจำกัดได้อย่างเต็มที่ ทางเดินนี่พอดี 1 คนเลยครับ เดินผ่านเคาเตอร์ที่มีพ่อครัวยืนลวกเส้น ทำซุปกันอย่างขยันขันแข็ง เสียงตะโกนต้อนรับลูกค้า รับสั่งอาหารกันอย่างครึกครื้น ดูแล้วก็สนุกเพลิดเพลินดีครับ
ที่ชอบอีกอย่างคือโต๊ะเคาเตอร์ของเค้าที่ใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า มีชั้นวางพวกเครื่องเคียง เครื่องปรุง อุปกรณ์ต่างๆ ของตกแต่ง ไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เครื่องปรุงต่างๆก็มีป้ายบอกไว้ว่าอะไรเป็นอะไรชัดเจน (แต่อ่านไม่ออกครับ T.T อาศัยดมๆกับมองด้วยตาเอาฮะ)
มารยาทอีกอย่างนึงที่อยากฝากเพื่อนๆไว้เวลาทานร้านอาหารที่ญี่ปุ่น ก็คือ การทิ้งทิชชู่ / ขยะ ลงไปในภาชนะอาหารที่เราทานเสร็จแล้ว เป็นเรื่องที่ไม่สมควรทำที่นี่ ไม่ว่าจะทานร้านไหนๆครับ อย่างที่ร้านนี้เค้าก็มีป้ายบอกไว้ เป็นรูปภาพคนใช้ทิชชู่สั่งน้ำมูก เช็ดปากหลังอาหาร แล้วทิ้งลงไปในชาม แล้วลูกค้าที่นั่งใกล้ๆเห็น ก็ทำให้ไม่อยากทานต่อ หรือมาทานอีก
เพราะชามนั้นอาจวนมาให้เค้ากินในครั้งหน้า … พอเห็นภาพไหมครับ ผมคิดว่าที่บ้านเราทำกันจนเป็นเรื่องปกติ ไปที่ไหนก็เห็นคนทำแบบนี้ แม้แต่พนักงานในร้านก็มองข้ามจุดนี้ไป เวลาเก็บโต๊ะก็โยนทิชชู่ ขยะทุกอย่างลงไปในชามข้าวละค่อยยกไปเก็บ … เริ่มต้นจากตัวเราเองกันครับ ค่อยๆปรับกันไปเนอะ ^^
เครื่องเคียงอย่าง ขิงดอง ผักดอง มีให้หนีบเติมกันได้ตามชอบครับ ระวังผักดองรสเผ็ดกันให้ดี เพราะค่อนข้างเผ็ดและรสชาติไม่คุ้นลิ้นมากๆครับ ถ้าอยากใส่อันไหนแนะนำให้ลองใส่แต่น้อยชิมดูก่อนนะคร้าบ
มาแล้ววว Kyushu Jangara มาร้านแบบนี้ก็ต้องสั่งเมนูที่เป็น signature ของที่ร้านครับ ชามโต เครื่องแน่น น้ำซุปร้อนๆหอมฉุยมาเลยทีเดียว ชามนี้ผมเลือกใส่เกือบครบ ทั้ง ท็อปปิ้ง หมูสามชั้น หมูชาชู ไข่ต้ม
หมูชาชูเค้าติดมันนิดๆ ต้มมาจนเนื้อนุ่มแทบจะละลาย รสเข้มข้น อร่อยครับ
ตัวเส้นราเมงก็ลวกมากำลังดี ไม่นุ่มจนเกินไป เส้นเล็กทานง่าย ได้รสน้ำซุปกระดูกหมูข้นๆทุกคำ เดินมาหนาวๆอากาศเย็นๆ ทานแล้วอิ่มอร่อย อุ่นสบายท้องดีจริงๆครับ
อิ่มท้องกันแล้ว ออกมาเดินเล่นกันต่ออีกหน่อยก่อนกลับที่พักกันครับ เดินกันจนเย็นเลยทีเดียวครับ ผู้คนก็ยังครึกครื้นกันอยู่ตลอดทางครับ
แวะร้านโมเดล ฟิกเกอร์ ของสะสมร้านดังอีกร้านกันดีกว่า ที่ร้านเขียวๆในภาพเลย Kotobukiya ที่ร้านนี้มีสินค้าประเภทนี้มากมายทีเดียวครับ มีถึง 4 ชั้น ของต่างๆก็แยกตามแต่ละชั้นกันไปครับ ตั้งแต่ ของสะสมจากการ์ตูนอนิเมชั่น , ตุ๊กตา ของน่ารักๆสำหรับสาวๆ , โมเดล , action figures ต่างๆครับ
เดินกันจนเหนื่อยจริงๆวันนี้ เย็นมากแล้วกลับกันดีกว่า ขากลับพวกเราก็เดินไปสถานีนั่ง JR จาก Akihabara กลับ Ikebukuro แถวที่พักได้เลยครับ เดี๋ยวถึงที่พักแล้วลองเปิดถุงช็อปปิ้งวันนี้มาดูเล่นกันดีกว่า ^^
ของฝากของสะสมกุ๊กกิ๊กๆน่ารักๆที่ได้มากันในวันนี้ครับ จัดโรโรโนอา โซโล จาก One Piece การ์ตูนดังมา 1 ตัว ทนความเท่ไม่ไหว ส่วนของคุณมิ้มได้ของน่ารักๆกระจุกกระจิกมาหลายชิ้นทีเดียว แอบมีเจ้าตุ๊กตา Sumikko Gurashi เจ้าหมีตัวกลมน่ารักๆติดมือมาด้วย และค่อนข้างชอบมากก็คือ แม๊กเย็บกระดาษแบบไม่ต้องใช้ตัวลวด แอบทึ่งครับ ^^”
ก็หมดกันไปอีกวันกับการเที่ยวโตเกียว ญี่ปุ่น ครั้งนี้นะครับ เดี๋ยวครั้งหน้าจะพาไปที่ไหนกันต่อ รอติดตามกันนะครับ
ขอบคุณที่แวะมาอ่านกันครับผม ขอบคุณครับ ^__^