ไปเที่ยวญี่ปุ่นกันเถอะ ! . . . หลายคนคงคุ้นเคยกับคำชวนนี้ดีนะครับ ด้วยความที่เป็นประเทศที่ผู้คนมากมายต้องการไปสัมผัสดูสักครั้ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยว บ้านเมือง อาหาร วัฒนธรรม ที่ล้วนแล้วแต่มีชื่อเสียงมากมาย แน่นอนว่าประเทศญี่ปุ่นก็เป็นเป้าหมายอันดับต้นๆของการไปเที่ยวของพวกเราเช่นกันครับ
ไปที่ย่านแรกที่จะขอนำเสนอกันก่อนเลยดีกว่าครับ . . . ที่ย่าน Kichijoji
ย่าน Kichijoji นั้นจัดเป็นย่าน shopping แห่งหนึ่งที่คนที่นี่รู้จักกันดีครับ นั่งรถไฟจากในเมืองออกมานิดเดียว (ถ้าพักในโตเกียว) นั่งรถไฟสาย Chuo Line ออกมาจาก Shinjuku เพียง 6 สถานีก็ถึงที่สถานี Kichijoji แล้วครับ
( ยิ้มแป้นเรย มาเดินย่านแบบนี้ถูกใจเค้าล่ะ ! ^^”)
ด้วยความที่ห่างออกมาจากตัวเมืองทำให้ตึกสูงดูบางลงไปถนัดตา บ้านเมืองแถวนี้ดูเรียบง่ายขึ้น ที่ย่าน Kichijoji นี้เป็นย่าน Shopping ที่ขึ้นชื่อเรื่อง Zakka (ซักกะ) ที่หมายถึงสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ที่สามารถนำไปตกแต่งไปใช้งานเพื่อเพิ่มความน่ารัก กุ๊กกิ๊ก ให้กับชีวิตประจำวันของเราได้นั่นเองครับ ^_^
ถ้าใครยังนึกภาพไม่ออกลองชมสินค้า Zakka จากร้านต่างๆในห้าง Atre ที่เราเจอตั้งแต่ขึ้นมาจากสถานีกันเลยครับ
เป็นไงครับพอนึกภาพสินค้า Zakka ออกกันบ้างไหม ไปเดินกันต่อดีกว่า เราเดินออกจากห้าง Atre แล้วข้ามฝั่งมาที่ ถนน Nakamichi กันก่อน
ที่ถนน Nakamichi จะเป็นถนนเล็กๆที่ระหว่างทางจะมีร้านเสื้อผ้า เครื่องใช้ ร้านอาหารและคาเฟ่ บรรยากาศสองข้างทางจะสบายๆไม่วุ่นวายเหมือนย่านตลาดอื่นๆ และที่ไปไหนก็ต้องเจอคือคนญี่ปุ่นใช้จักรยานในการเดินทางไปไหนมาไหนใกล้ๆเสมอ ในซอยแทบจะไม่มีรถผ่านมา เห็นอย่างนี้แล้วอดไม่ได้ที่จะหลงรักและอิจฉาบ้านเมืองของเค้าจริงๆครับ
ร้านของใช้ ถ้วยชามภาชนะสวยๆน่ารักๆ งานที่ทำด้วยใจรักแบบนี้ มีให้เห็นตลอดที่นี่ครับ แวะเก็บภาพมุมนี้กันหน่อย หน้าร้านเค้าตกแต่งได้น่ารักดีจริงๆ ^.^
ร้านคาเฟ่น่ารักๆแบบนี้ ใครเหนื่อยๆแวะพักจิบกาแฟ ทานขนมอร่อยๆกันได้ตลอดครับ นอกจากร้านจะน่ารักแล้ว ก็ยังมั่นใจได้อีกด้วยว่าขนมเค้าอร่อยแน่ๆ
อีกมุมหนึ่งที่ประทับใจในการมาเที่ยวญี่ปุนนี้ ถ้าลองสังเกตดูตามย่านที่เป็นที่พักของชาวบ้านทั่วไป มักจะมีกระถางต้นไม้ ดอกไม้ ตกแต่งอยู่เล็กๆน้อยๆหน้าบ้านเสมอ ทำให้ร้านดอกไม้ก็เป็นร้านที่สามารถพบได้ทั่วๆไปทั้งในห้าง และตามย่านขายของแบบนี้ครับ
ด้วยความที่อากาศเค้าถ้าเทียบกับบ้านเราแล้วก็เรียกได้ว่า อากาศเย็น ไปจนถึง หนาว ตลอดทั้งปี หน้าร้อนของเค้าก็เกือบๆจะเท่าหน้าหนาวบ้านเราละครับ แฮะๆ อากาศแบบนี้ก็เลยทำให้สามารถปลูกดอกไม้ได้หลากหลาย ขึ้นง่าย ออกดอกบานสวย เห็นแล้วก็อยากมีแบบนี้ที่บ้านจริงๆครับ
เดินในถนน Nakamichi ไม่นานนัก ก็เดินออกมาตามทาง ผ่านห้าง Parco ถ้าใครอยาก shopping สินค้าแบรนด์เนมก็แวะห้างกันได้ครับ มีทั้งห้าง Parco ห้าง Marui แต่วันนี้เราจะพาไปดูของ Zakka กัน เดินเลยไปอีกหน่อย เราจะไปเดินเล่นที่ ถนน Sun Road กันครับ
ที่ถนน Sun Road ตรงนี้จะเป็นบริเวณที่เป็นถนนช้อปปิ้งที่มีร้านค้ามากมายตลอดสองข้างทาง และยังมีซอยเล็กๆแยกๆไปอีกครับ พื้นที่บริเวณนี้เค้าทำหลังคาใสปกคลุมทั้งหมด เดินช้อปกันได้ไม่ต้องกลัวฝนเลยจ้า
สินค้าส่วนมากก็จะเป็น brand local ของเค้าครับ แน่นอนว่ายังคงความน่ารักกุ๊กกิ๊กด้วยสินค้า Zakka ไว้อยู่แทบทุกร้าน ใครที่ชอบสินค้าแนวนี้คิดว่าคงเดินกันอย่างสนุก และมีลุ้นได้เสียเงินทุกร้านกันเลยทีเดียวครับ ^^”
ร้านกระเป๋างานทำเองที่ดูเรียบง่ายแต่ก็สวยและคุณภาพดีไม่แพ้แบรนด์ดังๆเลยครับ
มาที่นี่ได้เดินชมสินค้า Zakka กันอย่างเต็มอิ่มจริงๆครับ
เดินเข้ามาสักพักจะถึงตรงทางแยก ร้านหัวมุมในภาพนี้คือร้าน Satou Steak House ที่มีขึ้นชื่อเรื่อง เค้านำเนื้อวัวมัตสึซากะมาทำเป็นโคร็อกเกะ หรือเนื้อบดคลุกเครื่องปรุงปั้นเป็นก้อนและนำไปชุบแป้งทอดจนกรอบ คนต่อคิวยืนรอซื้อยาวมากครับ และที่น่าประทับใจอีกอย่างคือ ตรงที่เค้าต่อคิวเป็นทางแยก เค้าก็มีการเว้นช่วงตรงถนนไว้แล้วให้คิวถัดไปยืนรอที่อีกฟากถนนต่อไปอีกครับ สมแล้วที่คนญี่ปุ่นเค้าขึ้นชื่อเรื่องระเบียบวินัย และมารยาทจริงๆ
เมนูเค้ามีให้เลือกไม่มากแต่ที่เห็นเป็นที่นิยมมากที่สุดก็เป็น โคร็อกเกะเนื้อ ที่บอกนั่นเองครับ น่าเสียดายที่เราไม่กินเนื้อทำให้อดเก็บภาพมาฝากกัน
(สังเกตคิวในภาพเหมือนจะสุดที่ผู้หญิงคนสุดท้าย แต่อีกฝั่งถนนยังมีอีกยาวคับ เค้าเว้นที่ไว้ให้ถนเดินผ่านได้สะดวก)
เลยมาอีกนิด แวะมาชิมขนมกันดีกว่า ร้านนี้ก็เป็นร้านที่คิวยาวไม่แพ้ร้าน Satou ตะกี้เลย ชื่อว่า Croissant Taiyaki เป็นร้านขนม ไทยากิ ซึ่งปกติจะเป็นขนมแป้งนุ่มๆรูปปลาสอดไส้ต่างๆเช่น ถั่วแดง แต่ที่ร้านนี้เค้ามีเอกลักษณ์ที่แตกต่างคือใช้แป้งแบบขนมปังครัวซองค์มาทำแทนครับ
ดูเมนูน่าร้านเห็นแล้วดูน่าทานจนอดไม่ได้ที่จะเข้าไปร่วมต่อคิวด้วยจริงๆครับ ^^
ต่อคิวอยู่สักพักนึงก็ใกลถึงคิวเราสั่งกันแล้ว แอบดูพนักงานอบขนมกันใหม่ๆร้อนๆตลอด กลิ่นหอม น่าทานมากๆเลยครับ (โชคดีที่เคยอ่านการ์ตูนละจำได้ว่า “อังโกะ” (Anko) แปลว่าถั่วแดง เลยพอจะเข้าใจว่าฝั่งไหนเป็นรสอะไรครับ ^^”)
อบกันใหม่ๆ สีสันน่าทาน มีเจ้าปลาสอดใส้ทั้งใส้ครีม ใส้ถั่วแดง ให้เลือกทานกัน แพคใส่ถุงทีละตัวๆให้ถือทานได้สะดวก น่าอร่อยจริงๆ
ได้มาแล้ว ให้ดูกันใกล้ๆ เนื้อแป้งจะกรอบนอกนุ่มใน มีน้ำตาลเคลือบผิวให้ได้รสหวานหอม แต่ก็ไม่หวานมากจนเลี่ยนครับ
ให้ดูใส้ข้างใน กินกันตอนที่ยังร้อนๆอยู่ อร่อยดีครับ กรอบนอก นุ่มใน แล้วก็หวานหอมอร่อย ^^
เดินกันจนเหนื่อย หาอะไรทานรองท้องอีกดีกว่า เพราะเดี๋ยวเรามีนัดกันต่อที่ Fujiko·F·Fujio Museum หรือ พิพิธภัณฑ์โดราเอมอน (รออ่านรีวิวตอนหน้าคร้าบ) ก่อนออกจากโซน shopping นี้ ก็เจอร้าน ทาโกะยากิ ร้านนี้ เห็นว่ามีที่นั่งทานหน้าร้านด้วย ก็เลยแวะพักกันซักหน่อยครับ
ได้แล้วววว น่าทานมากๆ เผื่อใครไม่ทราบนะครับ ทาโกะยากิ (Takoyaki) เป็นขนมครกญี่ปุ่น ที่มีไส้เป็นปลาหมึก ราดซอส แล้วโรยด้วยสาหร่ายและปลาแห้ง ถ้าใครชอบสามารถบีบมายองเนสลงไปเพิ่มได้ครับ
อ้ามมม ลูกโตๆแบบนี้ แนะนำพักไว้สักแปปหรือเป่าลมสักหน่อย ถ้ารีบทานระวังถูกลวกปากครับ
รสชาติอร่อย เข้มข้น ปลาหมึกมาเป็นชิ้นใหญ่ๆเต็มปากเต็มคำ ราคาถ้าจำไม่ผิดประมาณ 300 กว่าเยนเองครับ พอๆกับที่ขายขึ้นห้างที่บ้านเราเลย
ตอนเดิน shopping ก็แอบแวะซื้อเกี๊ยวซ่าทอดชิ้นโตๆมานั่งทานกันด้วย เสียดายที่หายร้อนแล้ว แต่ก็ยังทานได้ครับ ชิ้นโตมาก ไส้แน่นเต็มปากเต็มคำ กล่องนี้ถูกกว่าทาโกะยากิเสียอีก
นั่งทานอยู่ได้ยินเสียงดนตรีเพลงมาร์ชดังมาจากถนน ก็เลยคว้ากล้องวิ่งออกมาดูครับ ปรากฏว่าเป็นมาร์ชเดินขบวนพาเหรดของเมืองนี้ ไม่รู้เหมือนกันว่าเค้ามีกิจกรรมอะไรกัน หรือว่าเป็นของทางห้างไหนหรือเปล่า สื่อสารลำบากครับ ^^” แต่ดูแล้วผู้คนที่นี่เค้าก็ตื่นเต้นกัน และรีบออกมายืนมุงดูกันนะครับ น่ารักไปอีกแบบ
ด้วยความที่คนญี่ปุ่นเค้าจะชอบงานเทศกาลต่างๆ ถ้าลองค้นดูจะพบว่างานเทศกาลญี่ปุ่นมีเยอะมากและแตกต่างกันไปตามท้องที่ ซึ่งส่วนมากก็จะจัดกันที่ท้องถนนในตัวเมืองแบบนี้ล่ะครับ ทั้งการเต้น การรำ การแห่ศาลเจ้า
ทำให้แม้แต่ขบวนแบบนี้ก็ยังมีคนให้ความสนใจกันครับ เสียงดนตรีที่ครึกครื้น ก็ช่วยเรียกรอยยิ้มของเด็กๆและผู้ใหญ่กันได้ตลอดสองข้างทาง
พักทานขนมกันจนอิ่ม หายเหนื่อยแล้ว ได้ช้อปของ Zakka กุ๊กกิ๊กๆมากันจนจุใจแล้ว หวังว่าคงจะชอบย่านน่ารักๆแบบที่ย่าน Kichijoji นี้กันนะครับ เดินไปมุมไหนก็เจอแต่ของน่ารัก เป็นย่านที่เดินแล้วอารมณ์ดีจริงๆครับ น่าเสียดายเวลาเราไม่พอไปเดินเล่นกันที่สวน Inokashira แค่เดินช้อปก็หมดไปครึ่งวันกันแล้ว T.T
เดี๋ยวอีกชั่วโมงเราจะต้องไปตามนัดที่จองตั๋วไว้ที่ Fujiko·F·Fujio Museum หรือ พิพิธภัณฑ์โดราเอมอน รอบบ่ายสองโมง ครับ ขอตัวลาไปก่อน รออ่านรีวิวกันตอนหน้านะคร้าบ ^_^
ขอบคุณที่แวะมาอ่านกันนะครับ
แผนที่ย่าน Kichijoji คร่าวๆ