ไม่ไกลจากใจกลางเมืองมากนัก แถวย่านเก่าแก่อย่างสนามหลวง-ท่าพระจันทร์
หลายๆคนอาจทราบกันดีอยู่แล้วว่าที่นี่มีพิพิธภัณฑ์แห่งการเรียนรู้
พิพิธภัณฑ์มิวเซียมสยาม (Museum Siam) ตั้งอยู่ ที่นี่เปิดให้เข้าชมมาหลายปีแล้ว
มีนิทรรศการที่ให้ทั้งความรู้และความสนุกชมเพลินต่างๆหมุนเวียนกันไป
วันนี้ได้มีโอกาสแวะมาชมนิทรรศการใหม่ที่เพิ่งจัดในช่วงนี้ “ประสบการณ์หู สู่อาเซียน”
ได้ยินชื่อนิทรรศการแล้ว ยังงง งง อยู่ ลองไปดูกันเลยดีกว่าว่าเป็นยังไงครับ
มาถึง พิพิธภัณฑ์มิวเซียมสยาม กันแล้วจะเดินชมรอบๆก่อนก็ได้ถ้าใครไม่เคยมา อาคารที่นี่สวย น่าถ่ายรูป การเดินทางมาไม่ยาก ถ้ามาจากทางท่าพระจันทร์ – ท่าช้าง เลยมาถึงวัดโพธิ์ ตรงมาอีกนิดเดียวมิวเซียมสยามจะอยู่ทางซ้ายมือ
ไม่รอช้าเข้าไปชมด้านในกันเลยดีกว่า ค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่จะอยู่ที่ 100 บาท นักเรียน/นักศึกษา 50 บาท จ่ายแล้วก็สามารถเดินชมได้ทั่วทั้งพิพิธภัณฑ์ ถ้ามากันเป็นหมู่คณะก็มีส่วนลดให้ด้วย ลองสอบถามดูนะครับ
ถ้าจะชมเฉพาะในส่วนของนิทรรศการ “ประสบการณ์หู สู่อาเซียน” ตรงนี้ไม่เสียค่าใช้จ่ายนะครับ ^^
ตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม ไปจนถึง 20 ธันวาคม 2558 เวลา 10.00 – 18.00 น. ไม่เสียค่าใช้จ่ายครับ
เดินเข้ามาที่เป้าหมายของเราในวันนี้เลยดีกว่า นิทรรศการ “ประสบการณ์หู สู่อาเซียน”
จัดไว้ที่ห้องจัดงานที่ชั้นล่าง ด้านหน้ามีแจกข้อมูลนิทรรศการก่อนเข้าชมครับ
ก่อนมาก็คิด มาถึงก็คิด ว่า “ประสบการณ์หู” นี่มันคือยังไง จะเป็นแบบไหน พอได้เข้ามาแล้วเดี๋ยวจะค่อยๆเข้าใจกันไปเองครับ เริ่มต้นกันด้วยการเกริ่นนำนิดๆหน่อยๆกันก่อน
ภายในนิทรรศการนี้ จะนำเสนอประสบการณ์ของภูมิภาคอาเซียนผ่านการได้ยินเสียงต่างๆ
เสียงที่คุ้นเคยอาจมาจากที่ที่ห่างไกลไปกว่าพันกิโลเมตร การเดินทางของเสียงก็จะพาเราไปรู้จัก
กับภูมิภาคอาเซียนที่มีความหลากหลายและคุ้นเคยกันดี ค่อยๆเดินชมกันไปดูนะครับ
มุมถัดมานั้นที่ผนังก็จัดแสดงเป็นสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆในชีวิตประจำวัน จะเห็นว่าแต่ละชิ้นนั้นสามารถให้เสียงที่แตกต่างกันออกไป แต่ก็เป็นเสียงที่ถ้าเราได้ยินไม่ต้องเห็นภาพก็พอนึกออกว่าเป็นอะไร ด้วยการใช้สติในการฟังนั่นเองครับ
สิ่งของหลายๆอย่างก็มาคู่กับเสียง แต่ละเสียงนั้นบางครั้งนอกจากจะทำให้เรารู้ว่าเป็นเสียงอะไรแล้ว ก็ยังมีทั้งความหมาย ความทรงจำ อารมณ์ และ ความรู้สึก เข้ามาร่วมด้วย บางคนได้ยินเสียงเดียวกันแต่รู้สึกแตกต่างกัน ชอบบ้าง รำคาญบ้าง
นี่ก็เป็นอีกข้อหนึ่งของ “เสียง” ที่น่าสนใจเลยทีเดียวนะครับ
แต่ละมุมในนิทรรศการก็จะมีข้อความ ประโยคสั้นๆ ที่ให้แง่คิดและมุมมองเกี่ยวกับเสียงที่แตกต่างกันไป
ถึงแม้ว่าภูมิภาคอาเซียนนั้นจะมีความหลากหลายเชื้อชาติ แต่ก็มีความคล้ายคลึงกันในหลายๆด้าน เสียงหลายๆเสียงที่อัดมาจากหลายท้องที่ ที่มีให้ฟังในนิทรรศการนั้น น่าแปลกที่ถึงเราฟังไม่ออก แต่ก็พอสัมผัสได้ถึงกิจกรรม อารมณ์ และความรู้สึกที่ถ่ายทอดผ่านมา บางอันลองหลับตาฟัง ก็พอเห็นภาพสถานที่นั้นๆโผล่ขึ้นมาเลยทีเดียวนะครับ
แต่ละมุมก็จะมีจอภาพทัชสกรีน พร้อมกับหูฟัง ให้ได้ชม ได้ฟัง กัน มีเมนูเสียงแบบต่างๆให้เลือกแตกต่างกันไปตามแต่ละมุม
ชอบประโยคนี้ ^^
นอกจากเดินฟัง ชม อ่านข้อมูลแล้ว เรายังได้ร่วมรับประสบการณ์ในรูปแบบ “เปิดหู ปิดตา” “เปิดหู เปิดตา” “ปิดหู ปิดตา” เพื่อเรียนรู้ถึงจังหวะของเสียงในลักษณะต่างๆ ทำให้เห็นได้ชัดถึงมิติของอารมณ์และจังหวะที่มากขึ้น
ท่วงทำนอง และโทนเสียง เป็นสิ่งสำคัญที่มนุษย์และสัตว์ใช้ในการสื่อสารในชีวิตประจำวันนะครับ
บางครั้งเราไม่ต้องพูดคำใดๆ เพียงแค่ส่งเสียง ก็สามารถถ่ายทอดถ้อยคำออกมาได้ บางครั้งยังชัดเจนกว่าคำพูดหรือข้อความเสียอีก และเสียงนี่แหละ คือสิ่งที่สามารถสื่อสารกันได้อย่างไร้ขีดจำกัดเลยทีเดียวครับ
สมัยนี้ คนเราลืมกันไปแล้วว่า การฟัง ที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไร นอกจากจะไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ เสียงต่างๆที่อยู่รอบๆแล้ว เรายังลืมแม้แต่ที่จะฟังเสียงข้างในตัวเราเอง การฟังอย่างลึกซึ้ง จึงเป็นทักษะที่เราทุกคนควรมีไว้จริงๆนะครับ
เล่นสนุกกับเสียงในรูปแบบต่างๆจากรอบทิศทาง
ถัดมาเราเข้าไปดูห้อง interactive กันบ้าง
ที่ห้องนี้เราสามารถใช้หน้าจอทัชสกรีนเลือกเมนูเสียงรูปแบบต่างๆมากมาย มีทั้ง เสียงเครื่องดนตรี เสียงธรรมชาติ เสียงในเมือง เสียงผู้คน เสียงไม้ เสียงน้ำ ฯลฯ สนุกเพลิดเพลินมากครับ
แต่ละหมวดเราจะสามารถปรับควบคุมเสียง เปิดปิดเสียงประกอบต่างๆได้จากเมนูต่างๆบนหน้าจอได้เลย ในภาพเป็นเครื่องดนตรี ประเภทดีดสีตีเป่า มากันครบวงเลยทีเดียวนะครับ
อย่างภาพนี้ก็จะเป็นหมวดเสียงภายในเมือง ที่รวบรวมมาตั้งแต่เสียงในชนบท เสียงรถในเมือง เสียงรถไฟ ปรับเพิ่มระดับเสียงได้ตามที่อยากลองฟังได้เลยครับ
เสียงจากธรรมชาตินี้ก็เป็นป่าที่เป็นช่วงเวลาตั้งแต่เช้าตรู่ไปจนกลางคืน ซึ่งเสียงจะมาจากรอบทิศทาง ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในป่าตามช่วงเวลานั้นๆจริงๆกันเลยครับ
เสร็จจากชมพิพิธภัณฑ์แล้ว เดินมาด้านหลังอาคารก็จะมีร้านอาหาร MUSE Kitchen ของที่นี่ให้บริการด้วย มีทั้งอาหาร ขนม กาแฟ เครื่องดื่มต่างๆ จะมานั่งพักผ่อนชิวๆหาอะไรทานกันหลังชมงานกันก็ได้ครับ
ข้างในร้านก็บรยากาศเงียบสงบ สบายๆ ตกแต่งสวยงามครับ
จบกันไปแล้วนะครับ กับการพาชมนิทรรศการ “ประสบการณ์หู สู่อาเซียน” ในวันนี้
เป็นนิทรรศการที่น่าสนใจและแปลกใหม่มากๆงานนึงนะครับ เพียงแค่ผมเล่าด้วยภาพและข้อความต่างๆเหล่านี้ อาจยังไม่พอให้เพื่อนๆได้สัมผัสประสบการณ์เสียงกันครบถ้วน ถ้ามีโอกาส ลองแวะไปเดินกันดูนะครับ ที่นี่เปิดทุกวัน หยุดเฉพาะวันจันทร์ นอกจากนิทรรศการนี้แล้ว นิทรรศการอื่นๆที่จัดภายในมิวเซียมสยามแห่งนี้ก็ สนุก เพลิดเพลิน น่าสนใจและได้ความรู้ทั้งนั้นครับ
แวะไปเดินกันดูนะครับ
ขอบคุณที่มาเยี่ยมชมกันครับ ^^
รายละเอียด “มิวเซียมสยาม”
ที่ตั้ง : ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
โทร : 02-225-2777เปิด : วันอังคาร – อาทิตย์ 10.00 – 18.00 น.
[mappress mapid=”99″]